ครัวซองต์: ความอร่อยที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อและแรงงาน

25 ก.พ. 2021

ครัวซองต์: ความอร่อยที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อและแรงงาน

วันก่อนเพิ่งได้นั่งทานข้าวเพื่อนรุ่นพี่คนเก่ง ที่ก่อนหน้านี้ทำอาชีพขับยานพาหนะลอยฟ้า ณ ปัจจุบันที่พาหนะเหล็กต้องจอดนิ่งอยู่ที่ท่าจอดเป็นเวลาเนิ่นนาน คุณพี่กัปตันไม่ยอมอยู่บ้านนอนหายใจทิ้งเฉยๆ แต่หากลับหากิจกรรมฝึกฝนทักษะใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ และทักษะใหม่ล่าสุดที่พี่กัปตันสุดหล่อกำลังมุ่งมั่นหัดทำอยู่อย่างไม่ลดล่ะ คือ “การทำครัวซองต์” ด้วยตนเองค่ะ….ช่างเข้ากับกระแสครัวซองต์ฟีเว่อร์เสียนี่กระไร…

 

วันที่เราเจอกัน พี่กัปตันได้นำครัวซองต์แฮนด์เมดที่สุดแสนจะทุ่มทุนสร้างด้วยใจเกินร้อยมาฝากบ้านเราด้วยโดยอยากได้คำวิจารณ์เป็นการตอบแทนค่ะ หลังจากทุ่มเทแรงกายแรงใจและแรงเงินเรียนรู้วิธีและขั้นตอนการทำ ผ่านการนวดแป้ง การขึ้นแป้งที่ใช้ไม่ได้ก็ทิ้งทั้งล็อตอยู่เกือบสามเดือน จนกระทั่งเมื่อสามอาทิตย์ที่ผ่านมาพี่กัปตันก็ประสบความสำเร็จในการอบครัวซองต์ได้รูปร่างสวยงาม เพื่อนฝูงหลายคนก็ชิมแล้วชื่นชอบ และในวันนั้น…ก็มีครัวซองต์หอมกรุ่นเนยอย่างดี เป็นเนื้อฮันนี่โคมสวยงามมาให้บ้านเราได้ชิม เปิดถุงขนมมาดูนี่สีสันสวยงาม กลิ่นห้อมหอมเลย คุณป๊าหยิบชิมก่อนเป็นคนแรก เคี้ยวหยับๆ อย่างตั้งอกตั้งใจเลยทีเดียว….และหลังจากกลืนครัวซองต์ชิ้นนั้นลงท้อง ป๊าหันมาถามเพื่อนนักขับยานพาหนะบนฟ้าผู้หันมาทำครัวซองต์ว่า “อยากได้คำวิจารณ์ จริงๆ ใช่ไหม เอาแบบตรงไปตรงมาเลยนะ” คงด้วยไม่รู้ว่าจะตอบยังไงหรือไม่มีทางหนีทางอื่นก็ไม่ทราบได้ คุณพี่กัปตันจึงตอบว่า “เอาคำวิจารณ์จริงๆ เลยครับ”

 

“ครัวซองต์คุณยังใช้ไม่ได้ แป้งด้านในมันยังไม่ได้อย่างที่ครัวซองต์ที่ยอดเยี่ยมควรจะเป็น มันยังไม่เนียนพอ ยังไม่ผ่าน”

 

และก็จบการวิจารณ์ลงอย่างรวดเร็ว พบเจอคนใจเสียหนึ่งอัตราอยู่ตรงหน้า และป๊าก็ยังคงพูดต่อไปว่า “ผมเป็นคนรุ่นเก่า ครัวซองต์มันต้องมีเนยเยอะ เนยแล้วก็เนย เนยที่ดีเยี่ยมที่แทรกอยู่ในทุกอณู แต่คนรุ่นใหม่คงจะคิดว่าไม่ดีต่อสุขภาพ ทำครัวซองต์ให้อร่อยๆ ดีๆ มันเปลืองทั้งพลังงาน ทั้งพลังใจ และเงินด้วย กว่าจะบรูฟแป้ง กว่าจะนวดแป้ง ค่าแรงหมดไปเท่าไหร่แล้ว ไหนจะค่าวัตถุดิบดีๆ อีก คุณจะต้องขายชิ้นละเท่าไหร่ ถ้าจะทำขายก็อย่าทำเลยดีกว่า ผมเป็นห่วงคุณมากๆ เป็นห่วงกลัวสุขภาพคุณจะเสีย เราอายุไม่น้อยแล้ว ไม่อยากให้เหนื่อยอ่ะ”

 

 

พูดซะขนาดนี้ถ้าเป็นคนอื่นจิตใจคงห่อเหี่ยวจากการวิจารณ์อันแสนจะตรงไปตรงมาแล้ว แต่ก็แสนจะน่าประหลาดใจ พี่กัปตันของเรากลับมองในทางตรงข้ามว่ามันเป็นโอกาสในการปรับปรุงสิ่งต่างๆ ที่ทำอยู่ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เป็นโอกาสที่จะไปใช้แรงรีดแป้งเพิ่มขึ้นอีก ศึกษาลักษณะของเนยแต่ละประเภทให้มากขึ้นไปอีก พี่กัปตันได้พูดประโยคที่น่าประทับใจสุดๆ ออกมาว่า “ไม่ล้มเลิกหรอกครับ ต้องพยายามเอาชนะมันให้ได้ ต้องทำให้ได้”…เออ คนแบบนี้สินะที่หลักการบริหารงานสมัยใหม่เรียกว่ามี Growth Mindset ผู้ซึ่งไม่ยอมจำนนต่ออะไรง่ายๆ ถ้ามันยังพอมีทางเราต้องขอไปต่อมุ่งไปข้างหน้าให้ได้

 

ใช่แล้ว…การมีจิตใจมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวและไม่ยอมแพ้แบบนี้แหละที่เป็นสิ่งที่นักประดิษฐ์คิดค้นหรือคนเด่นคนดังของโลกล้วนแล้วแต่มีบรรจุอยู่ในนิสัย คุณสมบัตินี้เป็นสิ่งที่ต้องใช้กำลังใจในการฝึกฝนและความมุ่งมั่นในการผลักดันตัวเองไปข้างหน้าอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าใครจะว่ายังไงเราก็ยังคงเดินหน้าต่อไป

 

“ในที่สุดมันก็คงทำได้แหละคุณ แต่เราอายุก็ไม่ใช่น้อยๆ กันแล้ว การผลักตัวเองไปเรื่อยๆแบบนี้ สุขภาพเราจะแย่เอานะ ทำขนมปังมันดูดแรงเราเยอะจริงๆ ต้องคอยเฝ้าแป้งตลอดเวลา ยิ่งกว่าเลี้ยงลูกอีก ผมว่าทำเป็นงานอดิเรกน่ะดี แต่เป็นอาชีพแล้วไม่สนับสนุนเลย ผมสนับสนุนให้ลูกคุณทำมากกว่า (พูดพร้อมหันไปสบตาหนุ่มน้อยวัยรุ่นลูกชายพี่กัปตัน) คุณไปสอนลูกเลยว่าต้องทำยังไงบ้าง ลูกชายคุณเพิ่งมัธยมปลาย ความรู้และความสามารถแบบนี้และที่จะทำให้เค้าไม่เหมือนใคร เป็นอาชีพในอนาคตที่ต้องแข่งกับ AI ได้ดีมากๆ”

ป๊ายังคงกล่าวต่อไป ในขณะเดียวกันนั้น…ซีเรียกับเซเล่ก็กินครัวซองต์กันคนละชิ้นอย่างเอร็ดอร่อยและบอกกับหม่ามี้ว่าครัวซองต์อร่อยมากอ่ะหม่ามี้

 

 

หม่ามี้ตาผู้นั่งฟังอยู่ก็ได้แต่คิดว่า สิ่งนี้แหละหนาที่คือสาระสำคัญของชีวิต นี่คือสิ่งที่ยากที่สุด เป็นทักษะที่ต้องฝึกฝนอย่างไม่ลดล่ะ สิ่งสำคัญสิ่งนั้นก็คือ “การรู้ประมาณตน” การรู้จักว่า เมื่อไหร่ควรพอ เมื่อไหร่ควรหยุด เมื่อไหร่ต้องไปต่อ เราไม่ได้ล้มเลิกเพราะเราอ่อนแอ แต่เรามีสติรู้เพียงพอว่าเราต้องเลิกแล้ว จุดนี้คือลิมิตของเรา เราต้องรู้ว่าถ้ายังฝืนไปต่อแล้วร่างกายเราจะพัง เราต้องมองให้ทะลุว่ามีคนที่เหมาะสมกว่าก็ควรถ่ายทอดความรู้ให้ไป จุดไหนคือลิมิตของร่างกาย จิตใจ และกำลังทรัพย์ของเรา เราเท่านั้นที่ควรรู้ดีที่สุด เพราะคงมีแต่ตัวเราเท่านั้นแหละที่จะเป็นคนบอกได้ว่าควรหยุดแค่นี้หรือต้องมุ่งมั่นไปต่อ

 

พวกเราจบการสนทนาในค่ำคืนนั้นด้วยการพูดคุยเรื่องประวัติการทำครัวซองต์ วิธีการทำของประเทศต่างๆ ร้านครัวซองต์ที่อร่อยอยู่ที่ไหน การใส่มาการีนในครัวซองต์เพื่อลดต้นทุน การซื้อแป้งสำเร็จมาอบเป็นตัวเลยของหลาย ร้านดังๆ และการทำขนมอบแบบต่างๆ ฯลฯ

 

 

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น….ภาพในเฟสบุ๊คก็โชว์ครัวซองต์อบเสร็จแล้วแบทซ์ใหม่สีสวยน่ากินของคุณพี่กัปตันเพื่อนเราเหมือนเช่นเคย เป็นภาพที่เห็นจนชินตามากว่าสามเดือน และในตอนเย็นก็มีข้อความส่งมาบอกที่บ้านเราว่า

 

“ลูกชายผมอยากเรียนทำครัวซองต์กับผมแล้วครับ”

 

แบ่งปันความสุข